ผู้ที่ขัดขวางการปฏิบัติธรรม มีโทษอย่างไร
ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ ของนักปฏิบัติธรรมว่า อยู่ในระดับใด ถ้าปฏิบัติขั้นต้น ๆ เช่น ใส่บาตรทุกเช้า ผู้ใดขัดขวางห้ามมิให้ใส่บาตร บาปที่ผู้นั้นจะได้รับก็น้อยลง ผู้ที่นำอาหารไปถวายพระที่วัด รักษาศีลฟังธรรม ผู้ที่ขัดขวาง บาปที่ได้รับก็มากขึ้น สำหรับผู้ที่ไปบวชชีพราหมณ์ ๓ วัน ก็ดี ๗ วันก็ดี ผู้ที่ขัดขวาง บาปที่ผู้นั้นจะได้รับยิ่งมากขึ้น ส่วนผู้ที่มีความตั้งใจมั่นที่จะประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อชำระกิเลสให้หมดไปจากจิตใจ หวังเข้าสู่แดนวิมุต หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ผู้ที่ขัดขวาง บาปที่ผู้นั้นจะได้รับมากเป็นพันเท่าทวีคูณ
ตัวอย่างเช่น ภรรยาทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ทุกวัน สามีขัดขวาง ไปเกิดชาติหน้าสามีจะเป็นคนจนและโง่เขลา เบาปัญญา ถ้าภรรยานำอาหารไปถวายพระที่วัด รักษาศีล ฟังธรรม สามีขัดขวาง ไปเกิดชาติหน้าสามีจะเป็นคนยากจน เป็นอันธพาลโง่เขลา เบาปัญญามากขึ้น ถ้าภรรยาไปบวชชีพราหมณ์ ๓ วัน ๗ วัน สามีขัดขวาง ไปเกิดชาติหน้าสามี จะทำอะไรไม่สำเร็จ จะมีคนมาขัดขวางอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นคนล้มเหลวในชีวิต
ภรรยาตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมตามคำสอนของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อชำระกิเลสให้หมดไปจากจิตใจ หวังเข้าสู่แดนวิมุตหลุดพ้น จากการเวียนว่ายตายเกิด สามีขัดขวาง บาปที่สามีจะได้รับหนักมาก ตายไปตกนรกหมกไหม้หลายชาติ เมื่อได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก จะไร้ญาติขาดมิตร อดอยากยากจน ข้นแค้น ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหารการกิน เป็นคนใจร้าย รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ ในชาติต่อไปจะไม่ได้พบกันอีก ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันอีกต่อไป เพราะการกระทำในชาตินี้ต่างกัน คนหนึ่งทำแต่ความดี อีกคนขัดขวางและไม่ทำความดี ไม่มีศีลไม่มีธรรม ประกอบแต่กรรมชั่ว เป็นคนตระหนี่เห็นแก่ตัว ปากร้าย พูดแต่คำหยาบ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย การกระทำอย่างนี้อาจจะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย ได้รับความทุกข์ทรมานเป็นเวลายาวนาน
เพราะฉะนั้นผู้ใดก็ตามที่ขัดขวางการประพฤติปฏิบัติธรรมดังกล่าวมาแล้ว จะเป็นสามีขัดขวางภรรยา ภรรยาขัดขวางสามี ลูกขัดขวางพ่อแม่ พ่อแม่ขัดขวางลูก หรือญาติพี่น้องขัดขวาง บาปที่ได้รับจะส่งผลเหมือนกัน ดังที่อธิบายมาแล้วข้างต้น...นั้นแล...