ความเห็นแก่ตัว กับการรักตัวเอง
ความเห็นแก่ตัว หมายถึง คนที่ตกเป็นทาสของกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง หาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
การรักตัวเอง หมายถึง การรักษา กาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความเป็นจริง มนุษย์ที่เกิดมามีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำจิตมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติ ส่งผลให้มาเกิดเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน ดังที่มนุษย์เกิดมาเมื่อวัยเด็ก จะแสดงกิเลสออกมาให้เราเห็น เช่น ความหลง จะเห็นได้ว่าเด็กจะยึดมั่นถือมั่น ติดพ่อแม่ ไม่ยอมให้ใครอุ้มนอกจากพ่อแม่ หรือบางครั้งเด็ร้อง อยากได้สิ่งของต่าง ๆ เป็นเพราะเด็กมีความโลภ เมื่อได้มาแล้วก็เกิดความหวงแหน และอยากได้สิ่งของอื่นๆ อีกไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าไม่ได้ดังใจก็จะเกิดความโกรธ ร้องไห้งอแงดิ้นทุรนทุราย นี่คือ อาการของเด็กที่มีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำจิตมาตั้งแต่เกิด เป็นการแสดงออกถึงความเห็นแก่ตัว โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ยากลำบากของพ่อแม่ แต่ด้วยความรักที่มีต่อลูก พ่อแม่ก็ตามใจลูกทุกอย่าง ไม่ว่าลูกจะต้องการสิ่งใด ก็หามาให้ โดยไม่คำนึงถึงว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด อีกทั้งไม่เคยชี้แจงแสดงเหตุผลให้ลูกเข้าใจถึงความจำเป็นหรือไม่ กับสิ่งที่ลูกต้องการ ถือว่าเป็นการสนับสนุน กิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ของลูกให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งจะเห็นว่า เด็กที่ถูกพ่อแม่ตามใจส่วนมาก จะประพฤติตนไม่ดี ไม่รู้ผิดไม่รู้ถูก ไม่รู้ชั่ว ไม่รู้ดี ดังที่เราได้พบเห็นกันในปัจจุบัน
อนึ่ง ยังมีผู้เข้าใจผิดอีกมากว่า เด็กเกิดมาเป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ อันที่จริงแล้วเด็กถือว่ามีร่างกายบริสุทธิ์ เพราะยังไม่ได้ทำความผิดทางกาย ส่วนจิตใจนั้นถูกกิเลสครอบงำ ตั้งแต่อดีตชาติ จึงส่งผลให้มาเกิดเป็นมนุษย์ในชาตินี้ แต่ถ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ แล้ว ซึ่งหมายถึง ผู้ชำระกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง จนหมดสิ้นแล้ว ก็ไม่สามารถมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก จะเข้าสู่แดนวิมุติ หลุดพ้น ไม่มาเวียนว่ายตาย เกิด ในโลกนี้อีกต่อไป
ขณะเดียวกัน เมื่อโตขึ้น เป็นหนุ่ม เป็นสาว ก็จะแสดงความเห็นแก่ตัวมากขึ้นกว่าเดิม ต้องการที่จะทำอะไรก็ทำให้ได้ดังใจ เช่น การเที่ยวกลางคืน การคบคนชั่วเป็นมิตร การดื่มสุรา เสพยาเสพติด ไม่ศึกษาเล่าเรียน ผลสุดท้ายก็ เสียอนาคต หรือบางคนหลอกลวงเอาเงินทองจากพ่อแม่ ไปใช้จ่ายในสิ่งที่ผิด ถ้าได้เงินก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ก็โกรธ ทุบตี ดุด่า บางรายถึงกับทำร้ายพ่อแม่จนเสียชีวิตก็มี
บางคนกระทำความผิดถึงขั้น จี้ปล้น ฉกชิง วิ่งราว ทะเลาะวิวาท ถึงกับถูกจับดำเนินคดี ติดคุกติดตะราง หมดอนาคต โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ยากลำบาก ที่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด เลี้ยงดู อุ้มชูมา ตั้งแต่เล็กจนโต หวังให้ลูกมีอนาคตที่สดใส เป็นที่พึ่งยามแก่ชรา แต่ลูกกลับเห็นแก่ตัว เพราะด้วยอำนาจของกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง จึงสร้างแต่ความเดือดร้อน ให้เกิดกับตนเอง รวมทั้งพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และสังคม ตลอดมา
บางคนเมื่อถึงวัยทำงาน มีหน้าที่การงาน สำหรับผู้ที่เห็นแก่ตัวก็จะหาความสุข บนความทุกข์ของผู้อื่น เช่น ทุจริตคดโกงต่อหน้าที่ เอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานทุกวิถีทาง ประจบสอพลอ เพื่อให้ตนเองเจริญก้าวหน้า โดยไม่คำนึงถึงว่า การกระทำของตนเองนั้นจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ขอเพียงให้ตนเองสมความมุ่งมาดปรารถนา นี่คือ อีกตัวอย่างหนึ่งของความเห็นแก่ตัว
ส่วนมิจฉาชีพที่มีอาชีพ โจรกรรม ลักทรัพย์สิน จี้ปล้น ฉกชิง วิ่งราว ล้วงกระเป๋า งัดแงะ ลักทรัพย์ เป็นอาชีพ ในขณะที่เจ้าทรัพย์เผลอ หรือไม่อยู่บ้าน ถือว่ามีอาชีพที่หาความสุข บนความทุกข์ของผู้อื่น นำทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดมาเลี้ยงชีพ ให้สุขสบายโดยไม่คำนึง ถึงว่า เจ้าของทรัพย์จะทุกข์ร้อนเพียงใด ที่ต้องสุญเสียทรัพย์สิน ที่พยายามหามาด้วย ความยากลำบาก เก็บหอมรอมริบกว่าจะได้มา
หรือพวกที่จี้ปล้น ฆ่าเจ้าทรัพย์ พวกนี้ถือว่าจิตทรามมาก ได้ทรัพย์แล้วยังไม่พอ ถ้า เจ้าของทรัพย์ขัดขืนก็จะทำร้ายหรือฆ่าเสีย นี่คือ ความเห็นแก่ตัว และหาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอย่างเลวร้าย แม้กฎหมายจะกำหนดโทษถึงขั้นประหารชีวิตก็หาได้เกรงกลัวไม่
ความเห็นแก่ตัว หรือผู้ที่หาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นนี้ เกิดมาจาก พวกเขาเหล่านั้นตกเป็นทาส ของกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำจิต ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสสอนไว้ว่า “ผู้ใดที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ย่อมได้รับทุกข์ตลอดกาล” มนุษย์ที่เบียดเบียนผู้อื่นเลี้ยงชีพ พระพุทธองค์ทรงจัดให้อยู่ในประเภทมนุษย์สเปโต คือ มีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่มีจิตใจเป็นเปรต
การรักตัวเอง หมายความว่า การรักษา กาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากความชั่วไม่เป็นทาสของกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง
แท้ที่จริงแล้ว มนุษย์เกิดมา มีกรรมดี และกรรมชั่ว ในอดีตจึงส่งผลให้เกิดมาเป็นมนุษย์ จะเห็นได้ว่ามนุษย์ทุกคน มีทั้ง คิดดี พูดดี ทำดี และ คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว อยู่ในตัวมากน้อยต่างกัน สำหรับผู้ที่รักตัวเอง คือผู้ที่กลัวว่าตัวเองจะคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว มีสติปัญญาคอยควบคุมกาย วาจา ใจ ให้คิดดี พูดดี ทำดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น เช่น เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จึงตั้งใจประพฤติปฏิบัติ ตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า เช่น พระองค์ทรงสอนให้เราให้ทาน เท่าที่จะให้ได้โดยไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน เช่น
อมิสทาน คือ การให้หรือแบ่งปันสิ่งของต่าง ๆ กับผู้ที่ควรให้
วิทยาทาน คือ การให้ความรู้กับผู้อื่นเพื่อเขาจะได้นำไปประกอบอาชีพ เลี้ยงตนเองและครอบครัว
อภัยทาน คือ การให้อภัยกับผู้ที่กระทำผิด คิดชั่ว ที่คิดกลับตัวกลับใจ
ธรรมทาน คือ การนำเอาพระธรรมคำสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาอบรมสั่งสอน เพื่อให้ผู้อื่นละชั่ว ประพฤติดี ชำระจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ จากกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงสอนให้นำศีลมารักษา กาย วาจา เพื่องดเว้นทำความชั่ว มีศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ตามลำดับ ส่วนท่านใดจะเลือกปฏิบัติตามศีลหมวดใด แล้วแต่ความพร้อม หรือสมควรแก่ตน ที่จะนำศีลหมวดนั้น ๆ มาปฏิบัติตามเพื่อให้กาย วาจา สะอาดปราศจากความชั่ว
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนให้เราฝึกจิตให้สงบ คือ การเจริญสมาธิกรรมฐาน โดยใช้สติควบคุมจิตให้อยู่ที่เดียวกับบทภาวนา บทใดบทหนึ่ง เช่น พุทโธ สัมมาอรหัง หรือยุบหนอพองหนอ เป็นต้น เพื่อไม่ให้จิตฟุ้งซ่าน เมื่อจิตสงบดีแล้ว ก็จะได้นำคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้ามาพิจารณาที่เรียกว่า “วิปัสสนา” ให้รู้แจ้งเห็นจริงในแต่ละบท เช่นท่านทรงสอนไว้ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” การทำความชั่วเป็นบาป สิ่งที่เราจะได้รับก็คือ ความทุกข์ ทำดีได้ดีนั้นเป็นบุญ สิ่งที่เราจะได้รับ คือความสุข เพราะฉะนั้นคนที่รักตัวเอง คือคนที่กลัวตัวเองจะเป็นคนชั่วจะได้รับทุกข์ จึงตั้งใจพาตนเอง ประกอบแต่กรรมดีทั้งกาย วาจา ใจ เพื่อความสุข จะได้เกิดขึ้นกับตนเองตลอดไป
นี่คือ ลักษณะของผู้ที่รักตัวเอง ถ้าหากผู้ใดรักผู้อื่นยิ่งกว่าตัวเองแล้ว ผู้นั้นจะได้รับทุกข์ทรมานตลอดเวลา เช่น รักบุตร รักภรรยา รักสามี รักหวงแหนในทรัพย์สมบัติ เป็นต้น บุคคลใดที่รักตัวเอง จะไม่แสวงหาความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นโดยเด็ดขาด แต่กลับคิดช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
ขอท่านทั้งหลาย จงพิจารณาดูเถิดว่า ท่านมีความเห็นแก่ตัวหรือ มีความรักตัวเอง ถ้าหากท่านเป็นผู้มีความเห็นแก่ตัว จงเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ให้มีความรักตัวเองมากขึ้นตามลำดับ เพื่อความทุกข์ของท่านจะได้คลายลง ส่วนท่านที่มีความรักตัวเองอยู่แล้ว ขอให้ท่านจงมีความรักตัวเองไปจนตลอดชีวิต แล้วท่านจะได้พบความสุขตลอดไป