คำว่า “เมืองพอ” หมายถึง ความต้องการที่มีขอบเขต
คำว่า “เมืองไม่พอ” หมายถึง ความต้องการที่ไม่มีขอบเขต
เมืองไม่พอ หมายถึง มีความต้องการที่ไม่มีขอบเขต คือ ความไม่พอใจ ในสิ่งที่มี ที่ได้ ที่เป็น มนุษย์ทุกคนที่เกิดมามีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ครอบงำจิต เป็นเหตุให้มีความลุ่มหลงมัวเมา ในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ติดอยู่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์
บางคนมีเงิน มีทองพอสมควร ก็ยังไม่พอใจ ดิ้นรนเสาะแสวงหา ให้ได้มากตามที่ต้องการ เมื่อได้ตามต้องการแล้ว ก็ยังอยากได้มากขึ้นอีก ไม่มีที่สิ้นสุด จะเป็นจำนวนหมื่นล้าน แสนล้านก็ยังไม่พอ ก็ยังกระเสือกกระสน เป็นทุกข์ต่อไป จนลืมคิดว่าตายไปแล้ว เอาอะไรไปด้วยไม่ได้เลย
บางคนมีบ้านหนึ่งหลัง ก็ยังไม่พอใจ ดิ้นรนหาเพิ่มขึ้นอีก เป็นจำนวนหลายหลัง ในเมื่อได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็ยังอยากมีบ้านตามต่างอำเภอ ต่างจังหวัด มีไว้เพื่อตากอากาศอีก ความโลภจะพาให้ อยากมีมากขึ้นไปอีก ไม่มีที่สิ้นสุด
บางคนมีรถหนึ่งคัน ก็ไม่พอใจ อยากมีรถอีกหลายคัน เมื่อมีแล้วก็ยังไม่พอใจ อยากได้รถรุ่นใหม่ ๆ เรื่อย ๆไป ตามอำนาจกิเลส คือ ความหลง และความโลภ ที่ครอบงำจิตของผู้นั้น
บางคน มียศถาบรรดาศักดิ์ เมื่อมียศน้อยก็ไม่พอใจ วิ่งเต้นทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ยศตำแหน่งที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเสียเงินมากเท่าใดก็ตาม เมื่อได้ตามต้องการ ก็ยังไม่พอใจ พยายามวิ่งเต้นทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ยศตำแหน่งที่สูงขึ้น ต่อๆ ไป
ชายบางคน มีภรรยาแล้วก็ไม่พอใจ ในภรรยาของตน แสวงหาหญิงอื่นมาเป็นภรรยาอีก บางคนมีภรรยาหลายคน แต่ยังไม่พอใจ แสวงหาภรรยาเพิ่มต่อไปอีกเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
หญิงบางคนที่มีสามีแล้ว ก็ไม่พอใจในสามีของตน แอบไปคบชู้สู่ชาย เพราะไม่มีความสำรวมในกาม ไม่มีความซื่อสัตย์ต่อสามีของตนเองคบชู้สู่ชายไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
บางคนมีเงิน มีทองมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ก็ยังแสวงหาเกียรติยศชื่อเสียง ต้องการให้มีผู้คนในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ในประเทศ หรือทั่วโลก ยกย่องสรรเสริญ ถึงแม้จะเสียทรัพย์สินเงินทอง มากเท่าใดก็ตาม เพราะมีความหลง เข้าใจผิดว่าถ้าได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ตามที่ปรารถนาแล้วจะเป็นสุข ที่จริงแล้วถ้าผู้ใดไม่รู้จักพอ ผู้นั้นก็จะมีแต่ความทุกข์ตลอดชีวิต
ผู้ที่ติดอยู่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ไม่พอใจในรูปที่เห็น ไม่พอใจ ในเสียงที่ได้ยิน ไม่พอใจในกลิ่นที่ได้ดม ไม่พอใจใสรสที่ได้กิน ไม่พอใจในกายที่สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เมื่อสิ่งต่าง ๆ มากระทบเกิดเป็นอารมณ์ที่ไม่พอใจ ถ้ายังไม่รู้จักพอใจในสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ หมายถึงผู้นั้นยังไม่ได้พบเห็น เละเข้าไปอยู่ในเมืองพอ จะพบแต่ความทุกข์ตลอดเวลา หาความสุขใจไม่ได้เลย ถ้าหากยังไม่ได้พบเห็นเมืองพอ
เมืองพอ หมายถึง ความต้องการที่มีขอบเขต มนุษย์ที่พบเห็นเมืองพอ หมายถึง ผู้ที่มีคุณธรรมประจำใจ มีความสันโดษเป็นสันดาน มีความมักน้อย พอใจในสิ่งที่มี ที่ได้ ที่เป็น เช่น
บางคน มีเงิน มีทอง มีทรัพย์สมบัติที่ได้มาจาก การทำมาหากิน โดยสุจริต ก็รู้จักประมาณในการใช้จ่าย รู้จักแบ่งปัน ให้ทานกับผู้ที่ควรให้ และแบ่งปันไปสร้างสาธารณะประโยชน์ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล วัดวาอาราม เป็นต้น และตั้งใจทำมาหากินด้วยความ ซื่อสัตย์ สุจริต เขาจะไม่ทุกข์ร้อน กระวนกระวาย เพราะ ยินดีพอใจในความเป็นอยู่ ตามอัตภาพของตน
บางคนมีบ้านเพียงหลังเดียวพอได้อยู่อาศัย ไม่เดือด ร้อน เพราะมีความสันโดษเป็นสันดาน ไม่เสาะแสวงหาบ้านหลังที่สอง หรือหลังต่อ ๆ ไป ดังคำที่ว่า นกน้อยทำรังน้อยแต่พอตัว ฉันใด มนุษย์ผู้ที่พอใจในที่อยู่อาศัย ก็ย่อมไม่เกิดทุกข์ ฉันนั้น
บางคนมีรถเพราะมีความจำเป็น มีเพียงคันเดียวก็พอใจ รู้จักประมาณ ในฐานะของตนเอง ไม่ดิ้นรนขวนขวาย เป็นหนี้เป็นสิน ไม่ซื้อรถมาเพิ่ม หรือเปลี่ยนสี เปลี่ยนยี่ห้อใหม่ ให้เหมือนคนอื่นตามค่านิยมในสังคมปัจจุบัน นี่คือ ผู้ที่มีความพอและมีขอบเขตในการใช้จ่าย
บางคนมีที่ดินเพียงแปลงเดียว เป็นที่ทำมาหากินเลี้ยงชีพ ตามกำลังกาย กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์ก็พอใจแล้วไม่ดิ้นรนแสวงหาที่ดินแปลงใหม่ ให้เกิดความเดือดร้อน เป็นหนี้เป็นสินอีกต่อไป
ผู้ชายบางคนมีภรรยาแล้ว มีความสำรวมในกาม พอใจในภรรยาของตนเพียงผู้เดียว ไม่เสาะแสวงหาหญิงอื่นมาเป็นภรรยาอีก เพราะกลัวความทุกข์ ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นกับครอบครัว
หญิงที่มีสามีแล้ว มีความสำรวมในกาม พอใจในสามีของตน มีความซื่อสัตย์ต่อสามี ไม่นอกใจไปคบชู้สู่ชาย เพราะมีคุณธรรมประจำใจ มีหิริ โอตตัปปะ มีความละอายต่อบาป และเกรงกลัวต่อบาป
บางคนมียศถาบรรดาศักดิ์ ก็พอใจในสิ่งที่มี ที่ได้ ที่เป็น ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ทะเยอทะยาน ไม่มักใหญ่ใฝ่สูงโดยเข้าใจว่า ทุกคนเกิดมา เพราะกฎแห่งกรรม เราทำกรรมดีก็ได้ดี ทำกรรมชั่วก็ได้ชั่ว จึงไม่ต้องวิ่งเต้น เสียเงินเสียทอง เพื่อให้ได้ยศถาบรรดาศักดิ์มีความสันโดษ เป็นสันดาน
บางคนถึงแม้จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ก็ไม่ต้อง การมีชื่อเสียง ไม่ต้องการให้ผู้คนยกย่อง สรรเสริญ เพราะเห็นว่าคำยกย่องสรรเสริญ ทำให้เกิดความหลงตัวเอง
ผู้ที่มีความต้องการอยู่ในขอบเขต ถือว่าเป็นผู้ที่พบเห็นเมืองพอ หรือได้อยู่ในเมืองพอ จึงไม่ลุ่มหลง มัวเมา ในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่ติดอยู่ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ มากนัก มีความสันโดษเป็นสันดาน พอใจในสิ่งที่มี ที่ได้ ที่เป็น นี่คือ ผู้ที่พบเห็นเมืองพอ และได้เข้าไปอยู่ในเมืองพอ จึงมีทุกข์ น้อยลง